Amata City Chonburi Industrial Estate Thailand
Monday - Saturday 08:00-17:00
(+66) 038 109360-7

Personal Data Protection Policy

  • Thai
  • English
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Protection Policy)
บริษัท ทีบีเคเค (ประเทศไทย) จำกัด

วัตถุประสงค์และขอบเขตของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท ทีบีเคเค (ประเทศไทย)จำกัด (“บริษัท”) จึงจัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (“นโยบาย”) ขึ้นเพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคลากรและพนักงานของบริษัท หรือบุคลากรและพนักงานของบุคคลภายนอกที่เป็นผู้กระทำการแทนหรือในนามของบริษัท ในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นิยามสำคัญ

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ผู้มาติดต่อ และบุคคลธรรมดาอื่นใดที่บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดานั้น
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“ฐานทางกฎหมาย” หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย

ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะต้องกระทำภายใต้ฐานทางกฎหมายที่กำหนดไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้ถูกกำหนดเป็นแนวทางไว้ในนโยบายฉบับนี้ด้วย ดังนี้

1. กรณีข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะทำได้ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขของฐานทางกฎหมายประการใดประการหนึ่งใน 7 ประการ ได้แก่
1.1 ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ฐานความยินยอม)
ในกรณีที่ไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยฐานทางกฎหมายอื่นตามที่ระบุในข้อ 1.2 – 1.7 ของนโยบายนี้ได้ บริษัทจำเป็นต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การไม่ตอบรับหรือการนิ่งเฉยไม่ถือว่าเป็นความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ความยินยอมต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร หรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจมีรูปแบบและข้อความที่บริษัทจัดทำขึ้น (หนังสือขอความยินยอม) หรือตามที่กฎหมายกำหนด (ถ้ามี) ยกเว้นการขอความยินยอมด้วยวิธีดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้ ในกรณีนี้เจ้าของข้อมูลอาจให้ความยินยอมด้วยวาจาได้ แต่บริษัทจะต้องบันทึกความยินยอมดังกล่าวไว้เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมระบุรายละเอียดของวิธีการให้ความยินยอมและวันที่ให้ความยินยอมนั้น ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ เว้นแต่จะมีกฎหมายหรือสัญญาที่เป็นคุณแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจำกัดสิทธิไว้
อย่างไรก็ดี บริษัทพึงต้องตระหนักอยู่เสมอว่าบริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ต่อเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถให้ความยินยอมโดยอิสระและโดยความสมัครใจโดยแท้เท่านั้น

หมายเหตุ กรณีที่บริษัทจะต้องขอความยินยอมจากผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามลำดับ ทั้งนี้ หากเป็นผู้เยาว์ที่อายุ 10 ปีขึ้นไปก็อาจให้ความยินยอมเองได้สำหรับกรณีที่เป็นการดำเนินการที่ผู้เยาว์กระทำได้โดยลำพัง

1.2 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ การทำวิจัยหรือสถิติ (ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ)

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายกำหนด

1.3 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต)

ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคลใดๆ ซึ่งไม่จำกัดเพียงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เช่น กรณีบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากอุบัติเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีนี้ บริษัทไม่ต้องขอความยินยอม เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

1.4 เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเพื่อใช้ดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัท (ฐานสัญญา)

ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับบริษัท หรือดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทนั้น บริษัทไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

1.5 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ฐานประโยชน์สาธารณะ)

ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทไม่ต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

1.6 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย)

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูลดังกล่าวเพื่อใช้ดำเนินการเกี่ยวกับประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลที่สามซึ่งไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและ/หรือบุคคลที่สาม ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการรักษาความปลอดภัยและปกป้องทรัพย์สินและบุคคลที่อยู่ภายในบริเวณของบริษัท ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการบริหารจัดการองค์กรของบริษัท เป็นต้น อย่างไรก็ดี บริษัทจะต้องระมัดระวังในการใช้ฐานทางกฎหมายนี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และหากกรณีพบว่าประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นกรณีที่อาจกระทบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างมาก บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่บริษัทจะต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหากบริษัทยังคงประสงค์จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป

เพื่อเป็นแนวทางในการปรับใช้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย บริษัทจะต้องทำการประเมินว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ทุกประการหรือไม่

(1) บริษัทหรือบุคคลที่สามมีผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่
(2) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต่อผลประโยชน์ตามข้อ (1) หรือไม่
(3) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงคาดหมายได้ว่าบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่
(4) การเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยกว่าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่ใช่เป็นกรณีที่อาจกระทบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างมากหรือไม่
(5) บริษัทมีมาตรการปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแล้วหรือไม่

1.7 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้กับบริษัท (ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย)

ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้อาจรวมถึงการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งศาลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้างไว้เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายการคุ้มครองแรงงาน การเก็บเอกสารทางบัญชีไว้เป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

2. กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (โปรดดูหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 1.1) เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย ดังนี้:

• ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ซึ่งกรณีดังกล่าวมักจะเป็นการใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
• เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
• เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ:
- เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง
- ประโยชน์ด้านสาธารณสุข
- การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามสิทธิของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งการเก็บรวบรวมมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของบริษัทหรือของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
- ประโยชน์สาธารณะอื่นที่สำคัญ เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาด การเก็บรวบรวมและเปิดเผยต่อหน่วยงานรัฐซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หมายเหตุ แนวทางการพิจารณาและการตีความคำว่า “ประโยชน์สาธารณะ” อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางการพิจารณาและการให้ความหมายของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่ระบุในกฎหมายลำดับรองซึ่งอาจมีการประกาศใช้บังคับเป็นการเพิ่มเติมในอนาคต

ทั้งนี้ รายละเอียดในเรื่องของ ประเภท วัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมายของการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นจะปรากฏอยู่ในประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ

3. แนวปฏิบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องถูกเก็บรวบรวมไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดไว้เท่านั้น บริษัทจะต้องพิจารณาและเลือกเก็บรวบรวมข้อมูลเท่าที่จำเป็นที่จะต้องใช้และทิ้งหรือทำลายข้อมูลที่อาจได้มาโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

ในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินความจำเป็น บริษัทต้องหาวิธีการทำให้บริษัทสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้เท่าที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมนั้น เช่น ในกรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อระบุตัวตนของคู่ค้าหรือตัวแทนของคู่ค้าของบริษัทจากสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งโดยปกติบริษัทจำเป็นต้องใช้เพียงข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปในการระบุตัวตนของบุคคลดังกล่าว (เช่น ชื่อและรูปภาพ) ดังนั้น กรณีที่อาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวปรากฏบนบัตรประชาชนอยู่ด้วย (เช่น ศาสนา) บริษัทจะพิจารณาหาวิธีการทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่ปรากฏบนสำเนาบัตรเมื่ออยู่ในการครอบครองของบริษัท ซึ่งอาจเป็นการขีดฆ่าข้อมูลที่ไม่จำเป็นในสำเนาบัตรประชาชนที่ตนได้รับมา เหลือเพียงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการระบุตัวตนเท่านั้น เป็นต้น

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

เมื่อจะมีการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดทำและแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ เพื่อชี้แจงรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูล คำจำกัดความ ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมายของการเก็บรวบรวม ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมหรือระยะเวลาที่คาดหมาย ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ ข้อมูลรายละเอียดการติดต่อเกี่ยวกับบริษัท สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เข้าใจ และประกอบการพิจารณาให้ความยินยอมในกรณีที่การเก็บรวบรวมนั้นไม่อยู่ในฐานทางกฎหมายที่สามารถเก็บรวบรวมโดยปราศจากความยินยอมได้ บริษัทจะต้องแจ้งหรือส่งมอบประกาศความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การแจ้งหรือการส่งมอบประกาศความเป็นส่วนอาจไม่จำเป็นต้องกระทำซ้ำในกรณีที่บริษัทได้เคยแจ้งหรือส่งมอบประกาศความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแล้ว แต่ในกรณีที่บริษัทมีการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวในภายหลัง บริษัทจะต้องแจ้งหรือส่งมอบประกาศความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขให้กับเจ้าของข้อมูลใหม่

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

โดยทั่วไปบริษัทจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองโดยตรง อย่างไรก็ตามหากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง บริษัทจะดำเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นและแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ โดยไม่ชักช้าแต่ไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้เก็บรวบรวม และบริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยในกรณีที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานความยินยอม ทั้งนี้ ยกเว้นในกรณีที่บริษัทจะต้องนำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปใช้ในการติดต่อกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบเมื่อทำการติดต่อครั้งแรก และในกรณีที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดเผย บริษัทจะต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดเผยเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีบริษัทอาจไม่ต้องแจ้งข้อมูลการเก็บและประกาศความเป็นส่วนตัวดังกล่าวต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่าการแจ้งข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถทำได้หรือจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ นั้นอยู่แล้ว เช่น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเคยได้รับประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับการทำธุรกรรมบางประการกับบริษัทแล้ว และประสงค์จะทำธุรกรรมเช่นเดิมกับบริษัทอีกคราว นอกจากนี้หากในการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้ทำการว่าจ้างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการกระทำการแทนตามคำสั่งของบริษัท บริษัทอาจให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้กระทำการแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวแทนบริษัทได้ ซึ่งบริษัทจะต้องดำเนินการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายนี้เฉกเช่นเดียวกัน และถือเสมือนว่าบริษัทได้ดำเนินการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว


สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทพึงตระหนักว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งอยู่ในความครอบครองของบริษัท ตามที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงต้องจัดให้มีแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัท อย่างไรก็ดี ในกรณีที่บริษัทมีเหตุจำเป็นต้องปฏิเสธการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะต้องแจ้งเหตุแห่งการปฏิเสธดังกล่าวให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และบันทึกเหตุแห่งการปฏิเสธนั้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

1. สิทธิเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมซึ่งได้เคยให้ไว้กับบริษัทผ่านหนังสือขอความยินยอม ไม่ว่าจะเป็นการเพิกถอนความยินยอมบางส่วนหรือทั้งหมด และสามารถกระทำได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจะต้องแจ้งถึงผลกระทบให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบเมื่อมีการเพิกถอนด้วย (ถ้ามี) อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมจะไม่กระทบถึงการใด ๆ ที่บริษัทได้กระทำไปแล้วก่อนหน้าอันเนื่องมาจากการได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เหตุในการปฏิเสธ: เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมตามกฎหมายหรือเป็นกรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า

2. สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

เหตุในการปฏิเสธ: บริษัทอาจปฏิเสธคำขอบังคับตามสิทธินี้ได้ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น:

- เป็นการทำตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือ

- เมื่อบริษัทเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลอื่น

ทั้งนี้หากมีเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะต้องทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมเหตุผลไว้ในบันทึกรายการของบริษัทต่อไป

ระยะเวลาการตอบสนอง: กรณีบริษัทไม่อาจปฏิเสธได้ บริษัทจะต้องดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ

3. สิทธิร้องขอรับและขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัท หรือขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปให้แก่บุคคลหรือองค์กรอื่นในรูปแบบที่สามารถอ่านได้หรือใช้งานได้โดยทั่วไป รวมถึงมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่บริษัทหรือบุคคลหรือองค์กรอื่นที่ได้รับโอนไปเก็บรวบรวมไว้ การร้องขอนี้จะใช้ได้ในกรณีที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือคำร้องขอก่อนทำสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทเท่านั้น

เหตุการปฏิเสธ: บริษัทสามารถปฎิเสธคำร้องขอได้หากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นถูกใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธินั้นเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เช่น กรณีที่ข้อมูลดังกล่าวมีข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้า หรือข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเป็นส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้หากมีเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะต้องทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมเหตุผลไว้ในบันทึกรายการของบริษัทต่อไป

ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า

4. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ในกรณีต่อไปนี้:

(1) เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือสาธารณะประโยชน์ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย

เหตุปฏิเสธคำขอ (สำหรับข้อ 4 (1)): บริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุที่ชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์ สิทธิ หรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้หากมีเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะต้องทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมเหตุผลไว้ในบันทึกรายการของบริษัทต่อไป
(2) กรณีการตลาดแบบตรง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคัดค้านได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
(3) เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า และในกรณีที่บริษัทไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธ บริษัทจะดำเนินการแยกส่วนข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นออกจากข้อมูลอื่นในทันทีนับแต่เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งการคัดค้านให้ทราบ

5. สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ เมื่อ:

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์แล้ว ทั้งนี้ ตามระยะเวลาที่อาจบอกกล่าวให้เจ้าของข้อมูลทราบในประกาศความเป็นส่วนตัว
(2) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอมและบริษัทไม่สามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บข้อมูลได้อีก
(3) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่สามารถปฏิเสธคำคัดค้านได้
(4) ข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เหตุปฏิเสธคำขอ: บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอได้ในกรณีที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีต่อไปนี้

- เป็นการเก็บรักษาเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
- เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในฐานเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารทางประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ การวิจัย สถิติหรือฐานประโยชน์สาธารณะ
- เป็นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งเป็นการจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์ในด้านเวชศาสตร์ป้องกัน อาชีวเวชศาสตร์ ประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข
- การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- การใช้เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยการกระทำของบริษัทหรือถูกโอนให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้มีคำขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุตัวตนได้ บริษัทต้องดำเนินการในการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่สามารถระบุตัวตนได้ และต้องแจ้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ให้ดำเนินการเช่นว่าด้วย

ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า

6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่อ:

(1) ได้มีการร้องขอให้บริษัทแก้ไขความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ดี บริษัทอาจพิจารณายกเลิกการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้หากบริษัทตรวจสอบแล้วเห็นว่าข้อมูลที่ได้รับการร้องขอให้แก้ไขเป็นข้อมูลที่ถูกต้องอยู่แล้ว โดยแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนการยกเลิกพร้อมเหตุผล

(2) เป็นการใช้ข้อมูลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ระงับการใช้แทนการลบ

(3) ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้แล้ว แต่เจ้าของข้อมูลได้เคยขอให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลไว้เพราะจำเป็นต่อการใช้ ก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง

(4) บริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี บริษัทอาจพิจารณายกเลิกการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้หากบริษัทเห็นว่าบริษัทมีสิทธิในการใช้ข้อมูลต่อไปตามเหตุแห่งการปฏิเสธสิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคลที่กล่าวไปข้างต้น

ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

ทั้งนี้หากมีเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะต้องทำการบันทึกการปฏิเสธคำขอพร้อมเหตุผลไว้ในบันทึกรายการของบริษัทต่อไป

ระยะเวลาการตอบสนอง: โดยไม่ชักช้า

8. สิทธิการร้องเรียน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเห็นว่าบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากร

พนักงานและบุคลากรทุกคน รวมถึงบุคคลที่ได้รับการว่าจ้างและพนักงานของบุคคลที่บริษัทว่าจ้าง มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ และจะต้องรักษาความลับในข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด และไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่การงานไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ใช้เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว หรือใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยอาจแบ่งหน้าที่ได้ตามลำดับขั้น ดังนี้
1. ตำแหน่งประธานบริษัทและคณะกรรมการบริหาร
มีหน้าที่กำกับดูแลกระบวนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัท ดังนี้
- กำหนดบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) และ/หรือบุคคลหรือหน่วยงานอื่น เพื่อเป็นศูนย์กลางของบริษัทในการดูแลและรับเรื่องที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัท

- มอบหมายงานให้แก่พนักงานในการกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงวิธีปฏิบัติในการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท พร้อมทั้งแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อเกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นภายในบริษัท

- จัดให้มีการควบคุมและตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายหรือความเหมาะสมของนโยบายนี้อย่างสม่ำเสมอ

- เป็นผู้อนุมัติในการดำเนินงานเชิงนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น จัดให้มีการทบทวนความเหมาะสมของนโยบายนี้หรือการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลภายในบริษัทหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้

- พิจารณาและอนุมัติในการตอบสนองต่อคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหากการตอบสนองต่อการร้องขอดังกล่าวอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือบุคคลอื่นใด

2. ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) หรือผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
มีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบกระบวนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัท ดังนี้
- วิเคราะห์ ประเมิน ตรวจสอบ และควบคุมกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และให้คำแนะนำแก่บุคลากรหรือหน่วยงานอื่นภายในบริษัท เพื่อให้กิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

- ตรวจสอบ และอนุมัติแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละหน่วยงานภายในบริษัท รวมถึงวิธีปฏิบัติในการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท และแนวทางในการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นภายในบริษัท

- วิเคราะห์ ประเมิน และให้คำแนะนำแก่บุคลากรและหน่วยงานภายในบริษัทเกี่ยวกับการตอบสนองต่อคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหากการตอบสนองต่อการร้องขอดังกล่าว อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือบุคคลอื่นใด

- รายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทไปยังประธานบริษัทและบุคลากรระดับบริหาร

- ติดต่อประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นภายในบริษัทต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

- ศึกษารายละเอียดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กฎ ประกาศ คำสั่ง ระเบียบ หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และแจ้งให้บุคลากรของบริษัททราบ

- อธิบาย สร้างความเข้าใจ และความตระหนักรู้แก่บุคลากรของบริษัทเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

3. ตำแหน่งระดับผู้จัดการฝ่าย/ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป
มีหน้าที่กำกับดูแลการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายในแผนกของตนซึ่งอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแผนก โดยอาจแบ่งหน้าที่ได้ดังนี้

- อนุญาตให้บุคคลใดเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือมอบหมายหน้าที่ให้แก่พนักงานในการเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนต่าง ๆ ของแผนก

- จัดให้มีแนวปฏิบัติและการอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในแผนก และสร้างความเข้าใจร่วมกันว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่จำเป็นต้องเก็บและข้อมูลส่วนบุคคลใด ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการใช้ปฏิบัติงานภายในแผนก

- จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลในแผนกให้มีมาตรฐานตามกฎหมายและนโยบายนี้

- อนุมัติในการตอบสนองคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและปรึกษาหารือกับแผนกที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว รวมถึงหารือกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และรายงานต่อฝ่ายบริหารเพื่อขออนุมัติหากการตอบสนองต่อการร้องขอดังกล่าวอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือบุคคลอื่นใด

- ปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม

- จัดให้มีการบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของแผนกตามรายการที่กำหนดในนโยบายนี้

- รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชากรณีได้รับแจ้งถึงเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และพิจารณาว่าการละเมิดนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ รวมถึงการปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และผู้บริหารเพื่อพิจารณาให้มีคำสั่งให้ดำเนินการใดๆ ที่เหมาะสมตามนโยบายนี้ต่อไป

4. ตำแหน่งระดับพนักงาน/หัวหน้างานขึ้นไป
มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นขั้นตอนในระดับการปฏิบัติการ ดังนี้

- เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายและนโยบายนี้ รวมถึงเข้าร่วมการอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

- ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ความปลอดภัย การส่ง โอนเปิดเผย

หรือ การบันทึกข้อมูล ต่าง ๆ เป็นต้น
- แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบในกรณีที่เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ในบริษัท หรือคำสั่งให้กระทำการใด ๆ ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเมื่อเห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

- แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่ออนุมัติในกรณีได้รับคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

- แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันทีในกรณีทราบถึงเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าการละเมิดนั้นจะเกิดจากการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของบุคคลใดก็ตาม และไม่ว่าการละเมิดนั้นอาจจะมีหรือไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

5. ผู้รับจ้างและผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและนโบบายนี้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังต้องอยู่ภายใต้บังคับของสัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำไว้กับบริษัท (ถ้ามี) โดยมีหน้าที่ดังนี้

- เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายและนโยบายนี้ รวมถึงเข้าร่วมการอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเมื่อมีการร้องขอ

- แจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้าหากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ทราบถึงการละเมิดนั้น

- สนับสนุนและช่วยเหลือบริษัทในการตอบสนองคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

การฝ่าฝืนกฎหมายและนโยบายนี้ของพนักงานอาจถือเป็นเหตุลงโทษทางวินัยได้ และการฝ่าฝืนกฎหมายหรือนโยบายนี้ของผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท อาจถือว่าเป็นการผิดสัญญาที่มีกับบริษัทด้วยเช่นกัน หากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บริษัทอาจถือให้เป็นเหตุเลิกจ้างหรือเลิกสัญญาได้ นอกจากนี้ยังอาจมีโทษทางอาญาซึ่งเป็นโทษปรับและจำคุกสำหรับผู้กระทำการแทนบริษัทที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องศึกษากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและนโยบายนี้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด บริษัทจึงได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย แบ่งเป็น 1)มาตรการเชิงองค์กร (Organizational measures) 2)มาตรการเชิงเทคนิค (Technical measures) 3)มาตรการเชิงกายภาพ (Physical measures) เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความปลอดภัยบนพื้นฐานของการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ดังรายละเอียดที่กำหนดไว้ใน “มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล”

การบันทึก การใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 39 บริษัทจะทำการบันทึกการใช้และเปิดเผยข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวม โดยมีรายการดังต่อไปนี้

- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม รวมถึงวัตถุประสงค์และระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล

- การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีการเก็บข้อมูลโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่การขอความยินยอม

- สิทธิและวิธีการและเงื่อนไขในการใช้สิทธิเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

- การปฏิเสธหรือคัดค้านคำขอใช้สิทธิประเภทต่างๆ พร้อมเหตุผลตามที่ระบุในนโยบายนี้ และ

- คำอธิบายมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่บริษัทจัดให้มีขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตรวจสอบได้ และสามารถบังคับตามสิทธิที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งหรือร้องขอแก่บริษัท

การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ

บริษัทสามารถโอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศในกรณีดังต่อไปนี้

1. ประเทศปลายทางได้ถูกรับรองว่ามีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

2. กรณีประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ การโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องเข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย อันได้แก่

• เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

• ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยแจ้งให้รู้ถึงมาตรฐานที่ไม่เพียงพอของประเทศหรือองค์กรปลายทางแล้ว

• เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอก่อนเข้าทำสัญญา

• เป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

• เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

• เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

3. กรณีที่เป็นการส่งหรือโอนข้อมูลระหว่างบุคคลหรือนิติบุคคลต่างประเทศซึ่งอยู่ในเครือกิจการเดียวกัน บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างกัน โดยไม่ต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ข้างต้น โดยบริษัทจะต้องจัดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลระหว่างกันในเครือธุรกิจเดียวกัน ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ในปัจจุบันบริษัทยังไม่มีนโยบายการส่งข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างกันสำหรับบริษัทในเครือ)

ในปัจจุบัน คณะกรรมการยังมิได้มีการกำหนดประเทศที่มีมาตรฐานเพียงพอและยังไม่มีการรับรองนโยบายการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างกันสำหรับบริษัทในเครือ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังสามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศได้หากบริษัทได้จัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมสามารถบังคับตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ปัจจุบันกฎหมายยังไม่ได้กำหนดมาตรฐานดังกล่าวไว้แต่อย่างใด บริษัทจึงสามารถดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 2 จนกว่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว

การดำเนินการเมื่อมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นภายในบริษัท โดยที่เหตุละเมิดนั้นมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล พนักงานและบุคลากรทุกคนจะต้องประสานงานกันเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก่ ฝ่ายกำกับดูแลกิจการ จะต้องแจ้งการละเมิดดังกล่าวแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ที่ได้ทราบเหตุเท่าที่สามารถจะกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้บริษัทแจ้งเหตุการณ์ละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบพร้อมแนวทางเยียวยาโดยไม่ชักช้าด้วย

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นตามสมควร ทั้งนี้ตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย และความเหมาะสมทางธุรกิจ

หมายเหตุ: นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้รับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ [1 มิถุนายน 2565]

การสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีมีความประสงค์จะแจ้งเหตุแห่งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ:

[ฝ่ายกำกับดูแลกิจการ]
[038 109360-7 ต่อ 362]
[อีเมล cg@tbkk.co.th]
(Personal Data Protection Policy)
TBKK (Thailand) Co., Ltd.

Purpose and scope of the Personal Data Protection Policy

For the purpose of complying with the Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019) and subordinate laws issued thereunder, including any amendment which may be made thereof, (“Personal Data Protection Act”), TBKK (Thailand) Co., Ltd. (“Company”) has prepared this personal data protection policy (“Policy”) in order to prescribe the process of data collection, storage, usage and disclosure of Personal Data to personnel and staffs of the Company or personnel and employees of third parties representing or acting on behalf of the Company in processing of Personal Data relating to the business operation of the Company, in accordance with the PDPA.

Important Definitions

“Personal Data” refers to any information relating to a person which enables the identification of such Person, whether directly or indirectly, but not including the information of deceased persons in particular.

“Sensitive Personal Data” refers to any information regarding racial or ethnic origin, political opinions, cults, religious or philosophical beliefs, sexual behavior, criminal records, health data, disabilities, trade union information, genetic data, biometric data, or any data which may affect the Data Subject or affect the Data Subject in the same manner as specified by PDPA.

“Data Subject” refers to any natural person who owns personal data, i.e. customers, partners, service providers, directors, employees, visitors, and any other natural person to whom the Company collects, uses or discloses personal data of that personal data.

“Data Controller” refers to a natural or juristic person who operates in relation to the collection, use, or disclosure of personal data.

“Data Processor” refers to a natural or juristic person who operates in relation to the collection, use or disclosure of personal data pursuant to the orders given by or on behalf of a data controller, whereby such a person is not the data controller.

“Legal Basis” refers to the justifiable ground to collect Personal Data as prescribed in the PDPA.

Legitimacy of Personal Data Collection

Collection, use and disclosure of Personal Data must be conducted under a legal basis as specified in the PDPA; whereby it is also stipulated as a guideline in this Policy as follows:

General Personal Data: the collection can only be carried out if one or more of the seven legal bases has been met as follows:

1.1 Consent from the Data Subject (Consent Basis)

In case that the Personal Data cannot be collected by means of any other legal basis as specified in Clause 1.2-1.7 of this Policy, the Company needs to request for the explicit consent from the Data Subject before or while collecting their Personal Data. The absence of a response or inaction is not regarded as consent from the Data Subject. Such consent must be made in a written statement, or via electronic means which can either be in a form and with a content created by the Company (Letter of Consent) or stipulated by law (if any). Except where such request for consent cannot be made, in such case, the Data Subject may provide his or her consent verbally, in which case the Company must record the said consent in writing with details of the method and date of the consent. Notwithstanding, the Data Subject may withdraw his or her consent at any time, unless there is a law or contract advantageous to the Data Subject which restricts the Data Subject’s right to withdrawal.

Nonetheless, the Company shall always be aware that the Company can only request for the Data Subject’s consent provided that the Data Subject can give consent independently and voluntarily.

Remark: In the case that the Company shall request for consent from a minor, incompetent or quasi-incompetent person, the Company must obtain consent from the holder of parental responsibility, the custodian or curator who has the power to act on behalf of such Data Subject subsequently. If the minor is above the age of ten years, they may give their own consent in the case where they can act solely by themselves.

1.2 For preparing historical documents or the archives for public interest, or for the purpose relating to research or statistics (Archives/Research/Statistics Basis)

The Company may collect Personal Data to achieve the purpose relating to the preparation of historical documents or the archives for public interest, or for the purpose relating to research or statistics, in which suitable measures to safeguard the Data Subject’s rights and freedoms are put in place as required by law.

1.3 For preventing or suppressing danger to a person’s life, body or health (Vital Interest Basis)
In some cases, the Company may need to collect Personal Data to prevent or suppress danger to a person’s life, body or health, which is not only limited to the Data Subject. For example, it is necessary for the Company to collect Personal Data in an emergency accident involving the Data Subject, which in this case, the Company does not need to obtain consent to collect the Data Subject’s Personal Data.

1.4 For performance of contract between the Company and the Data Subject, or to proceed with the Data Subject’s request prior to entering into a contract with the Company (Contract Basis)

In case the Company needs to collect Personal Data for the performance of a contract to which the Data Subject is a party of, or in order to take steps at the request of the Data Subject prior to entering into a contract, the Company does not need to obtain consent to collect the Data Subject’s Personal Data.

1.5 For performing duties in the public interest (Public Interest Basis)

In case the Company needs to collect Personal Data for performing duties in the public interest by the Data Controller, or the exercising of official authority vested in the Data Controller, the Company does not need to obtain consent to collect the Data Subject’s Personal Data.

1.6 For legitimate interests (Legitimate Interest Basis)

The Company may collect Personal Data from the Data Subject without requesting for his or her consent if it is necessary for the legitimate interests of the Company or any third parties other than the Data Subject. For example, legitimate interests in the business operation of the Company and/or third parties, legitimate interests in securing and protecting property and people within the Company’s premises, legitimate interests in organizational management of the Company and so forth.

However, the Company need to be careful when collecting Personal Data relying on this legal basis – Except where such interests are overridden by the fundamental rights of the Data Subject, or may significantly impact on the rights and fundamental freedoms of the Data Subject, in such case, the Company must not collect Personal Data through relying on Legitimate Interest and is required to request for the Data Subject’s consent if the Company intends to continue collecting his or her Personal Data.

The following guidelines is provided for implementing the legitimate interest basis. The Company must assess whether the collection of any Personal Data is in accordance with the following criteria in all respects:

(1) Whether the Company or third party have legitimate interests to collect Personal Data or not;

(2) Whether the collection of such Personal Data is necessary for the objective pursuant to Clause (1) or not;

(3) Whether the Data Subject should expect that the Company is required to collect such Personal Data or not;

(4) Whether the interest of collection of such Personal Data is no less important than the fundamental rights of the Data Subject, or is not the case whereby the fundamental rights of the Data Subject is significantly affected or not;

(5) Whether the Company has appropriate Personal Data Protection measures in collecting Personal Data or not.

1.7 For complying with the laws enforced on the Company (Legal Duty Basis)

In case the law stipulates that the Company is required to collect, use or disclose Personal Data, the Company does not need to request for consent from the Data Subject. This may include processing Personal Data in accordance with court orders or government officials, for example storing employee data to comply with labor protection laws, storing accounting documents for a period specified by the law, etc.

2. In case of Sensitive Personal Data, the Company may collect, use or disclose such Sensitive Personal Data only when the Data Subject has given his or her explicit consent (please see guidelines and methods in Clause 1.1), except where the law provides that:

It is to prevent or suppress danger to the life, body or health of a person, where the Data Subject is incapable of giving consent by whatever reason, often for emergencies;


It is information that is disclosed to the public with the explicit consent of the Data Subject;


It is necessary for compliance with a law to achieve the purposes with respect to:

- Preventive medicine or occupational medicine, the assessment of working capacity of the employee;
- Public interest in public health;
- Employment protection, social security, national health security, social health welfare of the entitled person by law or social protection in which the collection of Personal Data is necessary for exercising the rights or carrying out the obligations of the Company or the Data Subject;
- It is for scientific, historical, or statistical research purposes, or other public interests; or
- Other substantial public interest e.g. collecting sensitive Personal Data for the purpose of preventing contagious diseases or epidemic, collecting and disclosing sensitive Personal Data to government agencies to prevent money laundering.
Remark: The guideline for considering and interpreting ‘public interest’ may change according to the guidelines and the definition provided by the Personal Data Protection Committee or as specified in secondary legislation which may be promulgated in the future.

Details of the type, purpose and legal basis for the collection of Personal Data of the Company will be in the Privacy Notice for different types of Data Subjects.

3. Guidance in collecting of Personal Data

The Personal Data must be collected, solely, to the extent where it is necessary to achieve the objectives as specified by the Company. The Company is required to consider on the request and select the collected data deemed necessary for the use, and erase or destroy the data received without necessity, especially Sensitive Personal Data. This is for the purpose of reducing the risks in unlawfully collecting, using and disclosing the Personal Data of the Company.

In the case where the Company has received more Personal Data than is necessary, the Company shall determine a method to solely collect Personal Data necessary to achieve the objectives of such Personal Data collection. For example, if the Company uses Personal Data to identify its business partner or their representative from a copy of the identification card, whereby typically the Company only requires general Personal Data for the identification of such person (i.e. name and photo). Hence, in case where the Sensitive Personal Data is contained in the identification card (i.e. religious), the Company should employ a method to prevent such Personal Data from appearing on the copy of the identification card when in the Company’s possession. This may include erasing unnecessary data received in the identification card, leaving only the necessary Personal Data for identification only.

Privacy Notice for Data Subjects

When Personal Data is collected, used or disclosed, the Company will create and provide a Privacy Notice for various types of Data Subjects to provide details of Personal Data processing, definitions, Personal Data which the Company collects, objectives of collecting Personal Data, legal basis of such collection, retention period or expected duration, type of persons or organizations Personal Data may be disclosed to, contact details of the Company, rights of the Data Subject and other relevant details, so that the Data Subject knows and understand, and consider providing their consent in the event that the collection of the Personal Data is not within the other legal basis which the Personal Data can be collected without consent.

The Company must inform or deliver the Privacy Notice to the Data Subject before or while collecting their Personal Data; except where the Company collects, uses or discloses the Personal Data prior to having this Policy, and it is still necessary for the Company to continue to collect, use or disclose that data, in which case, the Company must inform or deliver the Privacy Notice to the Data Subject without delay.

Source of Personal Data

In general, the Company is required to collect Personal Data from the Data Subject directly. However, if the Company have obtained the Personal Data from other sources from a source other than the Data Subject, the Company is required to inform the Data Subject of the collection along with the Privacy Notice without delay but shall not exceed 30 days upon the date of such collection, and obtain a consent from the Data Subject in the case of collecting Personal Data from the legal basis. Notwithstanding, except in case the Company is required to use the Personal Data to contact the Data Subject, the Company can inform the Data Subject upon the first communication with the Data Subject. In the case the Company discloses Personal Data, the Company is required to inform the Data Subject prior to the first disclosure.

However, in some cases the Company may not have to inform the Personal Data collection and Privacy Notice to the Data Subject if the Company can prove that such notice is not possible, or will obstruct the use or disclosure of the Personal Data, or the Data Subject is already aware of such detailed information. For example, the Data Subject has received the Privacy Notice for other business transactions with the Company and intends to carry out the same transaction with the Company again.

In addition, if the Company hires the Data Processor to collect, use or disclose Personal Data on behalf of and by order of the Company, the Company may assign the Data Processor to provide privacy notices on its behalf whereby the Company is required to ensure that the Data Processor complies with the obligations as stated in this Policy and it shall be deemed that the Company has provided the details of collection, use and disclosure of Personal Data in compliance with the PDPA as the Data Controller.

Rights of The Data Subject

The Company shall be aware that the Data Subject has the right to take any action regarding his/her Personal Data in the Company’s possession as stipulated by the Personal Data Protection Laws. Thus, the Company is required to provide a Data Subject Request Form to facilitate the Data Subject in notifying his/her intention to exercise his/her rights.

However, in the event the Company has the necessity to reject the Data Subject’s request, the Company is required to notify the Data Subject of such rejection in writing and record the reasons of such rejection in writing.

1. Right to withdraw consent. The Data Subject may withdraw some or all of his or her consent, which was previously given to the Company through the Consent Letter, at any time throughout the period that personal data is retained with the Company. The Company must inform the Data Subject of such effects upon the withdrawal of consent (if any). Notwithstanding, the withdrawal of consent shall not affect the processing of Personal Data by the Company that the Data Subject has already given consent prior to the withdrawal.

Reason for denial: Restrictions on the right to withdraw consent includes legal compliance or contract performance which is beneficial towards the Data Subject.

Response time: Without delay.

2. Right to request access to and obtain a copy of the Personal Data. The Data Subject is entitled to request access to and obtain a copy of the Personal Data related to him or her which is in responsibility of the Company, or to request the disclosure of the acquisition of the Personal Data obtained without his or her consent.

Reason for denial: The Company may reject the Data Subject’s request only in the following cases:
- To comply with a legal obligation or court order; or
- The Company considers that the Data Subject’s request will affect the fundamental rights and freedoms of other persons.

However, in the event of refusing the Data Subject’s request of his or her Personal Data rights as stated above, the Company shall keep a record of such denial together with reasons in the record.

Response time: Where such requests cannot be denied, the Company must comply with the request of the Data Subject within 30 days of receiving the request.

3. The right to request to receive and send or transfer of Personal Data. The Data Subject has the right to request his or her Personal Data from the Company, or to request the Company to send or transfer the Personal Data to another person or organization in a format which is readable or commonly used. This includes the right to receive his or her Personal Data which are transferred and maintained by other companies, personnel or organizations. This request can only be used if the Personal Data has been collected, used or disclosed with consent, or for contract performance, or for requesting to enter into a contract between the Data Subject and the Company.

Reason for denial: The Company can refuse the Data Subject’s request in sending or transferring Personal Data which is used for the performance of a task carried out in the public interest, or for compliance with the law, or such exercise of rights shall violate the rights and freedoms of others. For example, the integral part of the information contains trade secrets or intellectual property information attached to the personal data.

However, in the event of denying the Data Subject’s request of his or her Personal Data rights as stated above, the Company shall keep a record of such denial together with reasons in the record.

Response time: Without delay.

4. The right to object the collection, use, or disclosure of the Personal Data. The Data Subject has the right to object to the collection, use or disclosure of their Personal Data by the Company in the following circumstances:

(1) Collection, use or disclosure of such Personal Data is carried out for the performance of a task necessary for legitimate interests, or carried out in the public interest, including complying with orders of government officials.

Reason for denial (for No. 4(1)): The Company can demonstrate that there is a more compelling legitimate ground than the interests, rights, or freedom of the Data Subject, or the data collection, use or disclosure is carried out for the establishment, compliance or exercise of legal claims, or defense of legal claims.

However, in the event of denying the Data Subject’s request of his or her Personal Data rights as stated above, the Company shall keep a record of such denial together with reasons in the record.

(2) For the purpose of direct marketing, the Data Subject can object without any conditions.
(3) For the purpose of scientific, historical or statistic research, unless it is necessary for performance of a task carried out for the public interest.
Response time: Without delay. In the case the Company does not have a reason for the denial of such request, the Company shall immediately proceed to separate the Personal Data out from other data immediately upon the notification of the Data Subject’s objection.

5. The right to erase the Personal Data. The Data Subject has the right to request the Company to erase or destroy the Personal Data, or anonymize the Personal Data to become anonymous data which cannot identify the Data Subject or cannot be further reused, where either of the following grounds applies:

(1) The Personal Data is no longer necessary to be retained for the purposes for which it was collected, used or disclosed; whereby in relation to the period where it is applicable to notify the Data Subjects in the Privacy Notice;

(2) The Data Subject withdraws consent, and where the Data Controller has no other legal grounds for such collection, use, or disclosure;

(3) The Data Subject objects to the collection, use, or disclosure of the Personal Data, and the Company cannot reject to such request; or

(4) The Personal Data has been unlawfully collected, used, or disclosed.

Reason for denial: The Company is entitled to reject the request in case of collection, use, or disclosure of Personal Data in the following cases:

- Storing for the purpose of freedom of expression;

- To achieve the purpose relating to the preparation of historical documents, or archives of research, statistics or for public interests;

- The collection of Sensitive Personal Data which is necessary for compliance with the law to achieve the purposes of preventive medicine or occupational medicine, the assessment of working capacity of the employee or public interest in public health;

- For the purpose of establishment, compliance or exercise of legal claims, or defense of legal claims;

- For compliance with the law.

In case of the Company has disclosed the Personal Data to the public or transferred to other Data Controllers, and the Data Subject has requested for his or her Personal Data to be erased, destroyed, or anonymized, the Company shall proceed to have such Personal Data erased or destroyed, or anonymized. In addition, the Company shall inform other Data Controllers to proceed in the same manner.

Response time: Without delay.

6. Right to restrict the use of the Personal Data. The Data Subject may request the Company to restrict the use of the Personal Data in certain circumstances:

(1) There has been a request to correct Personal Data while the Company is pending the examination process of the request. However, the Company may consider to reject the request to restrict the use of their Personal Data if after examination, the Company finds that the Personal Data is accurate, and the Company notifies the Data Subject of the reason prior to rejecting their request; or

(2) When the Personal Data has been unlawfully processed and the Data Subject requests the restriction of their use instead of erasure of such data; or

(3) When it is no longer necessary to retain such Personal Data, but the Data Subject has requested the retention for the purposes of the establishment, compliance, or exercise of legal claims, or the defense of legal claims; or

(4) The Company is pending the verification to object the processing of Personal Data. However, the Company may reject the Data Subject’s request to restrict the use of their Personal Data if the Company has grounds on denial to the right to object as stated above.

Response time: Without delay.

7. Right to rectification. The Data Subject may request the Company to ensure that their Personal Data remains accurate, up-to-date, complete, and not misleading.

However, in the event of denying the Data Subject’s request of his or her Personal Data rights as stated above, the Company must state the reasons for denial of such request in its register

Response time: Without delay.

8. Right to lodge complaint. The Data Subject has the right to lodge a complaint to the expert committee as appointed by the Personal Data Protection Committee in the event that where he or she believes that the Company or the Data Processor, including the employees or the service providers of the Company or the Data Processor violates or fail to comply with the PDPA.

Duties and Responsibilities of Personnel

All staffs and personnel, including all employees and person hired by the Company are responsible for complying with the laws and this Personal Data Protection Policy and must keep Personal Data strictly confidential and must not use Personal Data received during working as an employee for any inappropriate, personal interest or illegal purposes. The duties of the personnel may be divided by rank of position as follows:

1. The managing director and upper management level

Shall be responsible for overseeing all the Company’s process to protect Personal Data as follows:

- Appoint a person or an organization as the Data Protection Officer (DPO) and/or other personnel or organizations to oversee and handle all matters relating to Personal Data protection from all departments within the Company;

- Assign employees the responsibility to identify the procedures regarding Personal Data protection, including risk management procedures which may arise from the collection, use and disclosure of Personal Data by the Company, together with the practical guidelines in the event of a data protection violation within the Company;

- Implement control and monitoring of compliance with this Policy, including assessing the suitability of this Policy on a regular basis;

- Approve the process of the Policies concerning Personal Data protection, for example ensuring the suitability of this Policy, how Personal Data is protected within the Company, or amendment of this Policy; and

- Consider and approve requests of the Data Subject to exercise his or her rights concerning his or her Personal Data in cases where their request may have a significant impact towards the Company, Data Subject and/or other persons.

2. Data Protection Officer (DPO) or Persons Responsible for the Personal Data Protection of the Company

Shall be responsible for advising and reviewing all of the Company’s Personal Data protection processes as follows:

- Analyze, evaluate, audit and control the Company’s Personal Data processing activities and advise personnel or other departments within the Company to ensure the Company’s Personal Data processing activities comply with the PDPA and the Company’s Personal Data Protection Policy;

- Review and approve Personal Data protection practices of each department within the Company. This shall include practices to manage risks that may arise from the collection, use and disclosure of Personal Data by the Company and methods to solve situations of Personal Data breach occurring within the Company;

- Analyze, evaluate and advise personnel and departments within the Company on how to respond to the Data Subject’s request to exercise his/her right in cases where their request may have a significant impact towards the Company, Data Subject and/or other persons;

- Report incidents regarding Personal Data processes within the Company to the managing director and executive personnel;

- Contact, coordinate and cooperate with the Office of the Personal Data Protection Committee, including proceedings concerning incidents of Personal Data breaches occurring within the Company, within the period specified by law.

- Study the details of the Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019), rules, announcements, orders, regulations or other laws relating to Personal Data protection. This shall include to follow up on amendments or revisions of laws relating to the protection of such Personal Data and to notify the Company’s personnel; and

- Explain, create an understanding and awareness to the Company’s personnel on Personal Data protection and relevant Personal Data protection laws.

3. Department manager level

Shall be responsible for supervising the collection, use or disclosure of Personal Data within their department, which may have different characteristics in each department. The responsibilities include the following:

- Allow any person to access Personal Data or assign an employee to manage the Personal Data within the department;

- Provide guidelines and training for Personal Data in the department and ensure that all staff in the department understand Personal Data which is required to be collected and Personal Data which is not necessary to collect for the operation of the department;

- Provide standardized measures to secure Personal Data in the department in accordance with the law and this policy;

- Approve responses of Data Subject’s requests to exercise his or her rights and consult with relevant departments, including consulting with personal data protection officers or persons responsible for the Personal Data protection of the Company and reporting to management to request for their approval if the request may have a significant impact towards the Company, Data Subject and/or other personnel;

- Consult with management and personal data protection officers to determine appropriate Personal Data protection practices;

- Provide a record of the collection, use or disclosure of Personal Data of the department in accordance with the lists specified herein this Policy; and

- Keep a report of all Personal Data breaches from the subordinates and consider whether such breach will affect the rights and freedoms of the Data Subject, including consulting with personal data protection officers or persons responsible for the Personal Data protection of the Company and management to consider whether any appropriate action needs to be taken in accordance with this Policy.


4. Staff / Supervisor above level

Shall act strictly in accordance with the laws and this Policy to protect Personal Data, in particular the following steps:

- Collect, use and disclose Personal Data in accordance with the law and this Policy, including participating in training regarding Personal Data protection of the Company;

- Perform duties assigned to protect Personal Data while handling Personal Data, for example the security, transmission, disclosure or recording Personal Data etc.;

- Inform supervisors when the collection, use or disclosure of Personal Data in the Company or any action they were instructed is unlawful. In addition, to further inform supervisors when the collection, use or disclosure of any Personal Data may pose a risk of violation to the fundamental rights and freedoms of Data Subjects;

- Notify the supervisor to approve any Data Subject’s requests to exercise their rights; and

- Notify the supervisor immediately if they become aware of any Personal Data privacy breach, whether it is a willful misconduct or gross negligence of any party whatsoever and whether the breach may result in a risk to the freedom and rights of the data subject

5. Contractors and service providers who are the Data Processor of the Company Shall act strictly in accordance with the laws and policies to protect Personal Data and will be bind under the Data Processing Agreement with the Company (if any). Such responsibilities include:

- Collect, use and disclose Personal Data in accordance with the law and this Policy, including participating in training regarding Personal Data protection of the Company upon request;

- Notify the Company without delay and within 24 hours if there is a breach of Personal Data protection after having become aware of it; and

- Support and assist the Company in responding to the Data Subject’s request in exercising their rights.

Violations of the law and this Personal Data Protection Policy by employees may result in disciplinary action, and any violation of the law or this Policy by the contractor or service provider which is the Data Processor of the Company may also be regarded as a breach of contract with the Company. If such violation or non-compliance results in damage to the Company, the Company reserves the right to terminate the employment or agreement. In addition, there may be criminal penalties, fines and imprisonment for the Company’s representative who breaches or fails to comply with the law. Thus, employees and related parties should review and strictly adhere to this Policy and the law regarding Personal Data protection.

Personal Data Protection Measures

To ensure the efficiency and standard of the safety system as required by laws, the company has, therefore, established three measures including 1) Organizational measures 2) Technical measures 3) Physical measures, in order to prevent any loss, unauthorized access, use, alteration, or disclosure of Personal Data and to ensure the appropriate information security related to confidentiality, integrity and availability whereby it is also stipulated in “Personal Data Protection Measures”

Record of Usage and Disclosure of Personal Data

For the purpose of complying with the Personal Data Protection Act, Section 39, the Company must arrange a record of usage and disclosure of collected data which shall consist of, at the very least:

- The lists of the collected Personal Data with the objectives and the retention periods,

- The usage or disclosure of Personal Data under the legal basis other than consent,

- The rights, method and condition for exercising of rights to access the information of the Data Subject,

- Rejection or objection of request to exercise the rights, including the reasons as defined herein this Policy, and

- The explanation of security measures which the Company has prepared. This is for the purpose that the Data Subject can examine and enforce their rights where the Data Subject has notified or requested to the Company.


Sending or Transferring Personal Data to Foreign Countries or International Organizations

The Company may send or transfer Personal Data to foreign countries under the following circumstances:
1. The destination country or international organization that receives such Personal data has adequate data protection standards.
2. In the event the Personal Data protection standard of a destination country or international organization is inadequate, the transfer of Personal Data must be carried out in accordance with the following:
Where it is for compliance with the laws;

Where the explicit consent of the Data Subject has been obtained, provided that the Data Subject has been informed of the inadequate Personal Data protection standards of the destination country or international organization;

Where it is necessary for the performance of a contract to which the Data Subject is a party, or in order to take steps at the request of the Data Subject prior to entering into a contract;

Where it is for compliance with a contract between the Company, and other persons or juristic persons for the interests of the Data Subject;

Where it is to prevent or suppress danger to the life, body, or health of the Data Subject or other persons, when the Data Subject is incapable of giving the consent at such time; or

Where it is necessary for carrying out the activities in relation to substantial public interest.


3. The Company may send or transfer Personal Data to another person or juristic person who is in a foreign country and is in the same group/affiliated companies without having to perform the prior actions listed above. Notwithstanding, the Company has to put in place Personal Data protection policy regarding sending or transferring Personal Data within the group/affiliated companies, and such policy has been reviewed and certified by the Office of the Personal Data Protection Committee (no policy on data portability has been established among the group/affiliated company at present).

Currently, the Personal Data Protection Committee has not yet established a list of countries with sufficient standards nor adopted certification policies for sending or transferring the data within the group/affiliated companies. However, the Company is entitled to send or transfer Personal Data to foreign countries or international organizations if the Company has appropriate security measures of Personal Data which enable the enforcement of the rights exercised by the Data Subjects, including having effective legal remedies in accordance with the standards prescribed by the law. Notwithstanding, as the laws have not prescribed such measure, the Company is able to proceed on the sending or transferring of Personal Data to be in accordance with Clause 2 until the laws in this regard are hereby promulgated to effectively implement.

Personal Data Breach Handling Process

In the event of a personal data breach incurred within the Company is likely to result to the rights and freedoms of the Data Subject, employees and personnel shall liaise and coordinate as necessary to ensure that the personal data breach is handled and complied with all relevant laws. The Corporate Governance is required to notify the PDPC of the personal data breach without delay and, where feasible, within 72 hours after having become aware of it. In case the personal data breach is likely to result in a high risk to the rights and freedoms of the Data Subject, the company is required to notify data subject of the breach incident and the remedial measures without undue delay.

Amendment of Personal Data Protection Policy

This Personal Data Protection Policy may be amended from time to time in order to comply with applicable laws and the appropriateness of business.

Note: This Personal Data Protection Policy was last revised on [1st June 2022]
Contact Details for Further Inquiry and Report Violations of Personal Data

Any question regarding personal data protection or in the event that you would like to report a violation of Personal Data, please contact details provided below:
[Corporate Governance]

[038 109360-7 Ext. 362]

[Email cg@tbkk.co.th]

เอกสารที่เกี่ยวข้อง
(Related Documents)

1 นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy)
2 พันธกิจการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Mission)
3 หนังสือแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Notification on Appointment of Data Protection Officer)
4 Privacy Notice - ผู้สมัครงาน (Applicant)
5 Privacy Notice - บุคลากร (Employee)
6 Privacy Notice - ผู้ถือหุ้นของบริษัท (Stakeholder)
7 Privacy Notice - ลูกค้า (Customer)
8 Privacy Notice - คู่ค้า (Supplier)
9 Privacy Notice - ผู้เข้ามาติดต่อบริษัท (Visitor)
10 Privacy Notice - ผู้ฝึกงาน (Apprentice)
11 Privacy Notice - ผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของบริษัท (Website user)
12 Consent Form - ผู้สมัครงาน (Applicant)
13 Consent Form - บุคลากร (Employee)
14 Consent Form - ผู้ถือหุ้นของบริษัท (Stakeholder)
15 Consent Form - ลูกค้า (Customer)
16 Consent Form - คู่ค้า (Supplier)
17 Consent Form - ผู้เข้ามาติดต่อบริษัท (Visitor)
18 Consent Form - ผู้ฝึกงาน (Apprentice)
19 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Security Measures)
20 แบบฟอร์มขอใช้สิทธิ (Rights Request Form)
21 สัญญาประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processing Agreement)
22 สัญญารักษาความลับ (Non-disclosure Agreement)